วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เล่านิทานให้เด็กฟัง

มาเล่านิทานให้ลูกฟังกันนะคะ


นิทาน ภาพ เครื่องมือในการเลี้ยงลูก            นพ.อุดม เพ็ชรสังหาร นักจิตวิทยาเยาวชน กล่าวว่า การเล่านิทานให้เด็กฟังกับการอ่านหนังสือให้เด็กฟังแตกต่างกัน การเล่านิทานให้เด็กฟังไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือเพราะสิ่งที่อยากให้เด็กคือให้เขาเกิดจินตนาการตามสิ่งที่พ่อแม่เล่า ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ไม่ต้องมีเครื่องมือ และที่สำคัญ การเล่านิทานก็เป็นภาษาพูด ไม่ใช่ภาษาอ่าน ส่วนนิทานภาพเป็นการช่วยเสริมเพื่อให้เด็กได้เห็นภาพ และเริ่มมีวิธีคิดจินตนาการ " หมอมีหูฟังเป็นเครื่องมือ พ่อแม่ก็ต้องมีหนังสือภาพเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูก" คุณหมอว่าอย่างนั้น

          สำหรับช่วงวัยของเด็กที่ควรได้รับการพัฒนานั้น ตามหลักวิชาสามารถทำได้ตั้งแต่อยู่ในท้องเพราะมีงานวิจัย ว่าเสียงตั้งแต่เด็กอยู่ในท้อง จะกระตุ้นให้เด็กเริ่มจำเสียงแม่ได้ ประสาทหูเริ่มทำงานตั้งแต่ 3 - 4 เดือน เพราะฉะนั้นตอนคลอดเด็กออกมาจะจำเสียงไม่ได้ " การได้ยินจึงเป็นตัวกลางสำคัญในการพัฒนาภาษา เพราะเด็กจะได้ยินเสียงและเลียนเสียงได้ถูกต้องอาจจะเป็นการร้องเพลงกล่อม หรือพูดคำว่า แม่รักลูกนะ แม่รักหนูจังเลย อย่าดิ้นสิลูก แม้เด็กอาจจะแปลไม่ได้ว่าหมายถึงอะไร แต่เขาจะรับรู้ถึงน้ำเสียงอยู่ในนั้น ตรงนี้เป็นการกระตุ้นประสาทการได้ยินพัฒนาขึ้นมาได้ หลังจากนั้นค่อยขยับมาเล่านิทาน การอ่านหนังสือให้เด็กฟังนั้น คุณหมอแน่ะนำ ว่าควรทำควบคู่กันไปเป็นการพัฒนาภาษาให้เด็ก" 


           ส่วนพ่อแม่ที่บอกว่าไม่มีเวลา คุณหมอ มองว่า อาจเป็นเพียงข้ออ้างมากกว่าแต่ " ต้องไม่ลืมว่า การทำมาหากินก็คือหน้าที่ การเลี้ยงลูกก็คือ หน้าที่ผู้ปกครองบางคนปฏิเสธความรับผิดชอบด้วยการให้ลูกดูทีวีนั้นถ้าสิ่งนี้กอดลูกเราได้ก็ดี หากแต่เพราะบรรยากาศในการเล่านิทาน หรือการอ่านหนังสือให้ลูกฟังตรงนั้น ไม่ใช่เพียงเสียงให้เข้าไปสัมผัสเด็ก ความรู้สึกได้รับจากเสียงที่พ่อแม่พูดคุยเวลาที่เขาเกิดปฎิสัมพันธ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอีคิว บุคลิกภาพของเด็ก สมมุติถ้าเป็นเทปให้เด็กฟัง แล้วเขาพัฒนาได้ครบถ้วนก็ไม่ต้องมีพ่อแม่ ที่สำคัญเด็กๆ ไม่ได้ต้องการแค่เล่านิทานสนุกๆ อย่างเดียว แต่เขาต้องการพ่อแม่ด้วย"


ส่วนใครหลายคนสงสัยว่าทำไมต้องเป็นนิทานก่อนนอนด้วย งานนี้เรามีคำตอบจากคุณหมออุดมว่า " เป็นเวลาผ่อนคลายที่สุดไม่ต้องเร่งรีบจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้อ่านแล้วเคลิบเคลิ้มก็หลับไปทั้งพ่อแม่และลูกถ้าอ่านก่อนไปโรงเรียนเดี๋ยวต้องรีบกุลีกุจอกลางคืนเป็นเวลาที่ดีที่สุดก่อนที่ทุกคนจะเข้านอน" นั่นเอง

เมื่ออ่านถึงตรนี้แล้ว....
คืนต่อไปเราคงได้เห็นภาพคุณพ่อคุณแม่กอดลูกไว้ในอ้อมแขน
พร้อมเสียงอันอบอุ่นที่ดังว่า...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.............นะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม